ศูนย์การเรียนรู้
PEA ต้นแบบการใช้พลังงานสะอาด
จากการที่ประเทศไทยมีความต้องการใช้กระแสไฟฟ้ามากขึ้นทุกปี
โดยเฉพาะในภาคธุรกิจอุตสาหกรรม
ซึ่งมีสัดส่วนความต้องการใช้พลังงานสูงที่สุด
หากเปรียบเทียบกับการใช้พลังงานทั้งหมดของประเทศ
ซึ่งนอกจากการอนุรักษ์พลังงาน
และการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าแล้ว
การพัฒนาพลังงานทดแทนก็เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันส่งเสริมและสนับสนุนอย่างจริงจังและเร่งด่วน
ที่ผ่านมาในช่วงปี 2545 - 2546 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
(PEA)
ได้ทำการศึกษาศักยภาพพลังงานลมในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ทั้งด้านอ่าวไทยและอันดามัน
จำนวน 4 จุด
ซึ่งผลจากการศึกษาความเร็วลมพบว่าบริเวณชายหาดมหาราช
บ้านพังเสม็ดอำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา
เป็นพื้นที่ที่มีความเร็วลมเพียงพอต่อการติดตั้งกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า
จึงดำเนินการติดตั้งกังหันลมดังกล่าวขึ้น
ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 129 ล้านบาท
โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติมจากกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
สำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) จำนวน 76.8 ล้านบาท
กังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าสทิงพระเป็นกังหันลมชนิดDirect
Drive Gearless Synchronous Generator
มีกำลังผลิตกระแสไฟฟ้าขนาด 1.5 เมกะวัตต์ (MW)
ในระดับความแรงลมเต็มพิกัด
ตัวกังหันลมมีขนาดความสูงรวมฐาน 80 เมตรใบพัด 3 ใบ
แต่ละใบยาว 37 เมตร
เป็นกังหันลมแนวนอนที่แกนหมุนขนานกับการเคลื่อนที่ของลม
โดยใบพัดวางตั้งฉากกับกระแสลม หลักการทำงานคือ
เมื่อมีกระแสลมพัดมาปะทะกับใบพัด
กังหันลมจะทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานลมที่อยู่ในรูปของพลังงานจลน์ไปเป็นพลังงานกล
ทำให้ใบพัดหมุน
แรงจากการหมุนของใบพัดนี้จะถูกส่งผ่านเพลาแกนหมุนที่ต่อเชื่อมอยู่กับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
เกิดการเหนี่ยวนำในเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและได้เป็นพลังงานไฟฟ้าที่ถูกส่งผ่านระบบควบคุมไฟฟ้า
และจ่ายกระแสไฟฟ้าขนานเข้าระบบจำหน่ายไฟฟ้าหลักของ PEAในระดับแรงดัน
33 กิโลโวลต์ (kV)
เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าจ่ายเข้าระบบเมื่อวันที่ 23 เมษายน
2554 จนถึงปี 2556 สามารถผลิตไฟฟ้าได้รวม 3,060,000
kWh (หน่วย) มีอายุใช้งาน 20 ปี
เป็นกังหันลมตัวที่สองในโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานลมของ
PEA ซึ่งตัวแรกอยู่ที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี
มีกำลังผลิตขนาด 250 เมกะวัตต์ (MW) ทั้งนี้ PEA
มีโครงการติดตั้งกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าตัวที่สามขึ้นที่จังหวัดปัตตานี
เป็นโครงการต้นแบบของการผลิตกระแสไฟฟ้าจากกังหันลมขนาดใหญ่แห่งแรกของ
PEA
ที่แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยสามารถนำพลังงานจากลมทะเลมาผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าขนานเข้ากับระบบไฟฟ้าปกติ
ช่วยให้มีแรงดันไฟฟ้าใน
ระบบเพิ่มมากขึ้น
ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของการนำพลังงานทดแทนที่สะอาดมาผลิตกระแสไฟฟ้า
ช่วยลดมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นและพื้นที่ใกล้เคียงได้เข้าใจถึงประโยชน์ของพลังงานทดแทนทั้งในแง่ของการอนุรักษ์พลังงานและการรักษาสิ่งแวดล้อม
PEA
ได้พัฒนาสถานีกังหันลมผลิตไฟฟ้าสทิงพระให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าด้วยแหล่งพลังงานสะอาด
ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสถานีกังหันลม
ติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าขนาด 1 kW เพิ่มจำนวน 7 ชุด
ปรับปรุงภายในอาคารห้องควบคุมให้เป็นห้องโสตทัศนศึกษาการเรียนรู้เรื่องการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมด้วยสื่อที่ทันสมัย
เปลี่ยนหลอดไฟฟ้าภายในอาคารควบคุมทั้งหมดเป็นหลอด LED
และก่อสร้างอาคารประหยัดพลังงานเพื่อใช้เป็นสถานที่เรียนรู้ด้านพลังงานทดแทน
การประหยัดพลังงาน และจัดแสดง PEA Smart Home
นอกจากนี้ได้ก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์เพื่อใช้จัดกิจกรรมต่าง
ๆ ของชุมชน อาทิจัดงานวันเด็ก จัดแสดงสินค้าชุมชน (OTOP)
ปัจจุบัน
ศูนย์การเรียนรู้การผลิตไฟฟ้าด้วยแหล่งพลังงานสะอาดและอาคารประหยัดพลังงานดังกล่าว
นอกจากใช้เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่มีนักเรียน นักศึกษา
นักวิชาการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน
และประชาชนทั่วไปให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมศึกษาดูงานการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมมากกว่า
5,000 คนต่อปี
และยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของจังหวัดสงขลาที่พัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อกระจายรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่
ล่าสุด
สถานีกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าสทิงพระได้รับรางวัลดีเด่นด้านพลังงานทดแทนประเภทโครงการพลังงานหมุนเวียนที่เชื่อมโยงกับระบบสายส่งไฟฟ้า
(On-Grid) ประจำปี 2556 ในงาน Thailand Energy Award
2013 ของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.)
กระทรวงพลังงาน
|