หากไม่ขับรถไปเองก็เดินทางได้ง่าย ๆ
ด้วยรถโดยสารสาธารณะ สะดวกไปอีกแบบ
โดยไปขึ้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมินั่งรถตู้ข้างห้างวิคตอรี่พอยท์มุ่งหน้าสู่อำเภอปากช่อง
จังหวัดนครราชสีมา มองข้างทางเพลิน ๆ
เพียงสองชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงตลาดปากช่อง
แล้วให้มองหาท่ารถสองแถวสีแดงคันใหญ่สายปากช่อง-เขาใหญ่
ที่จอดให้บริการตั้งแต่หกโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น
ค่าบริการประมาณ 10-20 บาท
เพื่อใช้เดินทางต่อไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ความตื่นเต้นจากนี้บนถนนธนะรัตน์
ก่อนจะขึ้นสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
เริ่มขึ้นแล้วอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีพื้นที่ 2,168
ตารางกิโลเมตรคาบเกี่ยวจังหวัด สระบุรี นครราชสีมา
ปราจีนบุรี และนครนายก อุทยานฯ
ผสมผสานความหลากหลายทางธรรมชาติด้วย ป่าดงดิบแล้ง
ป่าดงดิบชื้น ป่าดิบเขา ทุ่งหญ้า และป่าเบญจพรรณ
อุดมสมบูรณ์ด้วยระบบนิเวศสีเขียว ระดับความสูง
400-1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล อุดมด้วยพืชพรรณถึง
3,000 ชนิด นก 250 ชนิด และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 67
ชนิด กระทั่งได้รับการประกาศให้เป็น
มรดกโลกทางธรรมชาติ จากองค์การยูเนสโก เมื่อปี 2548
การันตีด้วยบันทึกสถิติว่า
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีอากาศบริสุทธิ์ 1 ใน 7
ของโลกเมื่อเสียค่าธรรมเนียมผ่านด่านอุทยานฯ
เรียบร้อยแล้วก่อนเริ่มการผจญภัยก็แวะสักการะ
ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่
เสียก่อนเพราะเจ้าพ่อเขาใหญ่ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองภยันตรายให้กับผู้คนและสัตว์ป่ามาช้านาน
จากนั้นขึ้นไปหาที่ค้างแรมบนผากล้วยไม้ หรือ
ลำตะคอง จุดกางเต็นท์ยอดฮิต ที่ทางอุทยานฯ
มีไว้บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อติดต่อเจ้าหน้าที่
เรียบร้อยแล้ว
สามารถเช่าอุปกรณ์การอยู่แคมป์ที่มีให้ครบครันส่วนห้องน้ำแม้จะเป็นแบบรวมแต่ก็สะดวกสบาย
ปลอดภัยสำหรับผู้ไม่สะดวกแบบนอนกลางดิน
นั่งรับประทานอาหารปิ้งย่างรอบกองไฟ
บนนี้ก็ยังมีบ้านพักอุทยานฯ ให้เข้าพักผ่อนกันด้วย
แต่ต้องจองล่วงหน้า หากลืมสิ่งของจำเป็น
ก็มีร้านค้าสวัสดิการ
รวมถึงร้านขายอาหารตามสั่งไว้คอยอำนวยความสะดวกยามค่ำคืน...ที่นี่มีกิจกรรม
ส่องสัตว์
ถ้าสนใจติดต่อเจ้าหน้าที่ให้เขาพาชมไนต์ซาฟารีของจริงแบบเป็นหมู่คณะได้หากไปในช่วงที่ไม่ใช่วันหยุด
หรือเทศกาลที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน
เมื่อเสร็จจากปาร์ตี้รอบกองไฟแล้วเข้านอนเลย
กลางดึกสงัด บรรดาสิงสาราสัตว์ ทั้งกวาง เม่น กระจง
จะมาเนวนรอบเต็นท์ส่องมนุษย์ตัวเป็น ๆ
อย่างพวกเราเสียเองก่อนรุ่งสาง
ขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นพ้นขอบฟ้าบนผาเดียวดาย
จุดชมวิวแบบพาโนรามา
ที่เราจะได้เห็นผืนป่าดงพญาเย็นอันเขียวขจีแบบ 360
องศามาเที่ยวเขาใหญ่แล้วไม่ ท่องป่า ถือว่ามาไม่ถึง
แต่ต้องมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ
พาเข้าไปเพราะป่ามีความอุดมสมบูรณ์มากหากไปเองอาจหลงทางได้
ระหว่างทางจะได้ยินเสียงชะนีร้องโหยหวนกันเป็นฝูง
มีเสียงแมลงและสัตว์ต่าง ๆ
รวมถึงจะได้เห็นร่องรอยของพวกเก้ง กวาง หมาไน
และสารพัดสัตว์ที่หากินอยู่ในป่าแห่งนี้อย่างเอื้ออำนวยกัน
นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้ชีวิตสัตว์จากโป่งดินที่กระทิงหรือช้างมากินเพื่อเพิ่มแร่ธาตุให้สุขภาพร่างกายของพวกมันเองก็เป็นอะไรที่น่าตื่นตา
ดีไม่ดี ระหว่างเดินผ่านหนองน้ำ
อาจได้เห็นจระเข้ที่กบดานอยู่นิ่ง ๆ
ให้ได้หวาดเสียวนิด ๆ ด้วยการเดินเข้าป่า
ควรสวมกางเกงขายาว และเสื้อผ้าที่รัดกุมจะดีที่สุด
เพื่อให้ปลอดภัยจากพวกแมลงหรือพืชที่มีหนามรวมถึงทากดูดเลือดต่าง
ๆ
ส่วนรองเท้าควรเป็นแบบผ้าใบหรือรองเท้าใส่สบายและกระชับ
เพื่อเพิ่มความคล่องตัว
แม้จะใช้เวลาเดินสำรวจอย่างละเอียดทั้งวัน
ก็ไม่รู้สึกเป็นภาระไฮไลต์ของเขาใหญ่อีกแห่งอยู่ที่
น้ำตกเหวสุวัต
เกิดจากห้วยลำตะคองไหลตกผ่านหน้าผาสูงราว 25 เมตร
และมีแอ่งน้ำทางด้านล่าง หากมาในช่วงหน้าแล้ง
จะสามารถเดินลัดเลาะเพื่อเข้าไปยังโพรงถ้ำเล็ก ๆ
ใต้หน้าผาน้ำตกได้ แต่ถ้าช่วงไหนฝนตก
แม้จะสวยงามแค่ไหนก็ห้ามลงเล่นน้ำเด็ดขาด
เพราะถ้าโชคไม่ดี
อาจได้รับอันตรายจากน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลันได้ในละแวกเดียวกัน
ยังมีน้ำตกเหวไทรและน้ำตกเหวประทุนที่อยู่ลึกเข้าไปอีก
แต่จะต้องเดินผ่านป่าลึกฝ่าดงทากเข้าไปควรมีเจ้าหน้าที่นำทางไปด้วย
เพื่อไม่ให้หลงทางมนต์เสน่ห์แห่งความสุข ณ เขาใหญ่
ไม่ได้มีแค่ความงาม
จากธรรมชาติเท่านั้น
เพราะพื้นที่โดยรอบยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจรายทางให้เลือกแวะตามความชอบของแต่ละคน
แต่ที่นิยมที่สุดน่าจะเป็น Palio
ซึ่งตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 17ของถนนธนะรัชต์
ติดกับจุลดิศ เขาใหญ่
เป็นกลุ่มอาคารสไตล์อิตาเลียนโบราณ
สีน้ำตาลอมส้มเรียงราย ในคอนเซ็ปต์ถนนคนเดิน
มีร้านขายสินค้าที่ระลึกกว่า 120 ร้าน
รวมทั้งอาหารเครื่องดื่ม สปา เสริมสวย
ตลอดจนที่พักในแบบบูติกโฮเต็ลที่นับว่าอยู่ใกล้สะดวกสบายต่อการเดินทางต่อ่ไปยังสถานที่เที่ยวใกล้เคียง
หรือขึ้นเที่ยวชมอุทยานฯ เขาใหญ่
ทั้งยังเต็มไปด้วยมุมสวย ๆ ให้ถ่ายภาพเล่นเป็นที่ระลึก
ราวกับไปเยือนประเทศอิตาลีมาจริง ๆ เลยทีเดียว
อีกแห่งที่ให้ความรู้สึกราวกับหลุดไปอยู่ในโลกของนิยายฝรั่งก็คือ
ที่ Cottages @ Hill Resort ซึ่งอยู่ตรงกิโลเมตรที่
13ของถนนธนะรัชต์ เพลินตากับบ้านสไตล์ยุโรป
ทรงวินเทจสีสวยหวาน ซึ่งดัดแปลงเป็นรีสอร์ต
ล้อมรอบด้วยสวนไม้ดอกแสนสวย
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าพักสามารถติดต่อที่สำนักงานได้ในอาณาบริเวณเดียวกัน
มีร้านอาหาร Steak Cottagesให้ได้ลองชิมกับสารพัดเมนู
หรือจะนั่งจิบกาแฟ ละเลียดโกโก้ที่ร้าน Coffee
memories ก็มีมุมเก๋ ๆ
ให้โพสท่ามากมายนอกจากนี้ยังมีร้านไอศกรีม Ice Cottage
และบ้านสบายนวดแผนไทย ตามแต่จะเลือกเข้ารับบริการ
ตลอดแนวถนนธนะรัชต์ และถนนรอบ ๆ
เขาใหญ่เกือบทุกสายมีแหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรอื่น ๆ
อาทิ ร้านอาหารร้านกาแฟ
แหล่งช็อปปิ้งพักผ่อนหย่อนใจในสไตล์ยุโรปอีกมากมาย
ที่ผุดขึ้นเป็นทิวแถว
ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เย็นสบายตลอดปีของที่นี่
จึงมีผู้นำองุ่นพันธุ์ต่าง ๆ
มาเพาะปลูกเป็นไร่ขนาดใหญ่ ทำอุตสาหกรรมไวน์หลายแห่ง
และเปิดเป็นรีสอร์ตให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาดื่มด่ำกับบรรยากาศไร่องุ่นสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน(ยุโรปตอนใต้)
ซึ่งถิ่นกำเนิดของไวน์เขาใหญ่ก็อยู่ที่ไร่องุ่นPB
Valley บนถนนมิตรภาพ
เส้นทางลัดที่เชื่อมต่อไปยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และ
อำเภอวังน้ำอำเขียว
จังหวัดปราจีนบุรีสัมผัสความอลังการของไร่องุ่นบนเนื้อที่กว่าสองพันไร่
เมื่อเข้าสู่ช่วงเก็บองุ่น เราจะได้ชิมองุ่นสีม่วงหวาน
ๆ นอกจากนี้
ที่นี่ยังมีร้านอาหารมากเมนูที่ทำจากองุ่นให้ลิ้มลอง
ถัดจากไร่องุ่น PB Valley คือที่ THE BLOOM by
TVPool
ซึ่งมีแนวคิดในการจัดสวนให้ดอกไม้ที่บานสะพรั่งมากที่สุด
ใหญ่ที่สุดบนเนื้อที่กว่าร้อยไร่ และจุดชมวิว 360
องศารวมถึงยังมีกระเป๋า Hermes
ขนาดยักษ์ตั้งอยู่ในสวนดอกไม้ซึ่งสร้างความตื่นตาให้กับผู้พบเห็นอย่างมาก
กิจกรรมที่นี่มีป้อนอาหารแกะ ลานน้ำพุอธิษฐาน เขาวงกต
กังหันลมคู่รักชิงช้าสวรรค์ และลานเครื่องเล่นต่าง ๆ
ระหว่างทางมุ่งหน้ากลับเข้าเมือง
บนถนนมิตรภาพประมาณกิโลเมตรที่ 155-156
ลองแวะไร่ข้าวโพดสุวรรณที่การันตีความสวยงามของทุ่งดอกไม้หลากสีกลางหุบเขา
จากการเป็นฉากประกอบละครทีวีมาแล้วหลายเรื่อง
ซึ่งบนเนื้อที่สี่ร้อยกว่าไร่นี้ มีข้าวโพดหวาน
ทั้งแบบต้มและแบบดิบ
รวมทั้งน้ำนมข้าวโพดและสินค้าการเกษตรจำหน่าย
เหมาะแก่การอุดหนุนเป็นของฝากคนทางบ้าน
การมาเที่ยวเขาใหญ่ แหล่งโอโซนธรรมชาติใกล้เมืองกรุง
และเป็นทางผ่านของประตูสู่ภาคอีสาน
ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากแม้แต่น้อย
ทั้งยังสะดวกสบายต่อการเดินทางเป็นอย่างมากแม้จะไม่มีรถยนต์ส่วนตัว
เราสามารถพบเห็นน้ำใจของคนไทยด้วยกัน
ที่มีรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้าและแววตา
รวมถึงท่าทีที่พร้อมจะช่วยเหลือไม่ว่าจะเดินทางมาจากที่ไหน
ภูมิภาคอะไรเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดี
ของวันพักผ่อนที่มีความสุขก่อนกลับมาทำงานหนัก
เชื่อไหมว่า โรคภูมิแพ้กรุงเทพฯ จะบรรเทา
เพราะมีความสุขจากการท่องเที่ยวธรรมชาติเป็นยารักษาให้หายขาดในช่วงระยะเวลาสั้นได้จริง
ๆ
|